วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

08: พลานุภาพพระพุทธปฐวีธาตุ

ผมดีใจและขออนุโทนาในบุญกุศลที่เหล่านักรบธรรมทั้งได้แสดงออกกันในวันนี้เป็นอย่างมาก ผมดีใจแทนพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่มีลูกศิษย์ที่มีความกตัญญูกตเวทีจริง เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านมีความเมตตาพวกเรา โดยพยายามหาสิ่งที่เป็นมงคลที่สุดมาเพื่อพวกเรา ผมจะบอกนะพระพุทธปฐวีธาตุที่พ่อแม่ครูอาจารย์หามาเพื่อพวกเรามีพุทธานุภาพมากดังนี้
1. หินแต่ละก้อนเป็นหินที่อยู่ใต้บาดาลมีวิญญาณพญานาครักษาอยู่ทุกๆ ก้อน
2. หินทุกๆ ก้อนมีพระธาตุของพระอรหันต์อยู่เป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อพระอรหันต์นิพพานแล้วพญานาคจะนำอัฐฐิไปเก็บรักษาไว้ที่เมืองบาดาล

3. ด้วยความศักดิ์อันนี้ หินทุกก้อนจึงมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองทุกๆ ก้อนโดยไม่ต้องปลุกเสกใดๆ
4. หินทุกๆ ก้อนพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้อธิษฐานจิตให้แล้ว โดยท่านจารึกรูปพระพุทธเจ้า และลงยันต์อันเป็นยันต์เฉพาะของท่านเองหาที่ไหนในโลกนี้ไม่มี
5. หินแต่ละก้อนที่นำมาทำเป็นพระมีลักษณะพิเศษเฉพาะ ท่านจะเลือกให้เหมาะกับจริตของศิษย์แต่ละคน และแต่ละก้อนมีลักษณะไม่ซ้ำกัน พวกเราจึงได้พระที่มีลักษณะไม่เหมือนกันเรียกได้มีสิ่งเดียวใลก
6. จากคุณลักษณะที่พิเศษของหิน บวกกับพ่อแม่ครูอาจารย์อธิษฐานจิตให้ หินนั้นจึงมีอานุภาพสว่างไสว ครอบจักรวาล จึงเป็นของวิเศษและของที่มงคลสูงสุด
7. ท่านบอกว่าการสร้างของท่าน พ่อแม่ครูอาจารย์บอกสร้างเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยแรงศรัทธาจึงทำให้ของสิ่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลาไม่เปลี่ยนแปลง
8. มีข้อแม้ว่าทุกท่านที่ได้ต้องนำมาภาวนา หากไม่ภาวนา บางดีพญานาคที่รักษาอยู่ในหินอาจจะไม่พอใจ หากนำภาวนาแล้วพญานาคที่รักษาจะชอบใจมาก และอาจจะบรรดาลโชคลาภ และทำให้พวกเรามีความเจริญในธรรม

ทั้งหมดนี้คือความพิเศษเฉพาะองค์ ของพระพุทธปฐวีธาตุ ที่พ่อแม่ครูอาจารย์มอบให้พวกเรา และท่านยังจะมอบรอยพระพุทธบาท ซึ่งจะเป็นรอยของท่านเองเอาไว้เมื่อท่านมาตรัสรู้ พวกเราจะรับรู้ได้เอง... ผมจึงขอแสดงความยินดีในบุญกุศล ทั้งจงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ทุกท่านจงมีความสุข ความเจริญ และส่งผลให้บรรลุมรรคผลนิพพานด้วยเทอญ

ขอให้เจริญในธรรม

ครูชาติ/Fri 09/02/2011 3:59 PM
**************************
ปล: พลานุภาพของพระพุทธปฐวีธาตุ มีพลังไร้ขีดจำกัด อิทธิคุณครอบจักรวาล Natachai,Nontayan,IT Man
ดร.นนต์ 22-08-2011, 11:22 AM
"พระพุทธปฐวีธาตุ" มีพลังพุทธานุภาพขององค์ผู้มีวิสัยพุทธะที่รอการตรัสรู้ที่อยู่ในกายสมมุติของพระอริยเจ้านั้น มีพลังเกินจะประมาณได้ บอกได้แต่เพียงว่ามากกว่า 100+++ เท่าของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์นิยมทั่วไปมากนัก นับว่าเป็นสิ่งมงคลสูงสุดที่ผมค้นพบในช่วงเวลานี้ (แม้แต่เส้นพระเกศาของพระองค์ท่านยังกลายเป็นพระธาตุได้เร็วนัก) กระแสเย็นแห่งองค์พุทธะนั้นจะมีอะไรสูงไปกว่าการดึงผู้ครอบครองเข้าไปสู่กระแสแห่งการบำเพ็ญสมาธิ ก็เพื่อเป็นฐานก้าวไปสู่กระแสแห่งพระนิพพานได้ในอนาคต กระแสเย็นนี้ย่อมดีกว่าฤทธิ์เดชใดๆในจักรวาล แต่ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่มีพลังสูงกว่านี้อีก แต่ยังไม่ทราบว่า...คืออะไร... ขอให้ลองพิจารณาและรับรู้ด้วยตัวเองเถิด
ปล.พลังครอบจักรวาล เหล่านักรบธรรมควรใช้เพื่อการภาวนาสมาธิจะดีที่สุดนะครับ อนุโมทนา

ซึ้งบน:22-08-2011, 11:46 PM
วันนี้ได้อ่านที่ท่านอาจารย์นนต์ บอกว่า พระพุทธปฐวีธาตุควรใช้เพื่อการภาวนา สมาธิจะดีที่สุด ทุกวันหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ ก็จะนั่งสมาธิต่อ แต่วันนี้ได้อาราธนาขอบารมีพระพุทธปฐวีธาตุ เป็นที่พึ่งในการนั่งสมาธิด้วย โดยวิธีวางองค์พระบนมือข้างขวา แล้วกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ได้สักครู่หนึ่ง จิตรวมตัวได้เร็วกว่าปกติ หลังจากนั้นจิตก็ดิ่งลงสู่ภวังค์ เหมือนจะหลับแต่มีสติรู้อยู่ตลอดเวลา ลมหายใจแผ่วๆเหมือนจะไม่มีลมหายใจ จมอยู่ในสภาวะอย่างนั้น มีความรู้สึกว่ามือขวาที่ถือองค์พระกับมือซ้ายนั้นมันติดกันยกไม่ขึ้น จนกระทั่งจะออกจากสมาธิ จิตก็คิดถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ จึงทดลองส่งจิตไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ภูดานไห (นึกเป็นภาพที่ท่านนั่งสั่งสอนบนแคร่ไม้ไผ่ ส่วนตัวเรา
ก้มกราบอยู่พื้น) เท่านั้นล่ะครับ รู้สึกเย็นวาบขนลุกขนชัน ตั้งแต่มือไล่ไปจนถึงศรีษะ เป็นอยู่ประมาณ 1-2 นาที
ถ้าจำไม่ผิด ท่านอาจารย์นนต์เคยถามพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า จะส่งจิตมากราบไหว้พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มั้ยครับ ท่านตอบว่า ได้ เพราะการกราบไหว้นอบน้อมเป็นสิ่งดี (ถ้าผมจำผิด ต้องกราบขอโทษท่านอาจารย์นนต์ ณ.ที่นี้ด้วยครับ)
ดร.นนต์




ขออนุโมทนาสาธุ เป็นจริงตามนั้นทุกประการครับ
ของเก่าของท่านซึ้งบนทำไว้เยอะ โดยเฉบาะตะบะสมาธิจนได้ฌานชั้นสูงมาแล้ว เพียงแต่มาในภพนี้ ท่านได้รับการกระตุ้นเล็กน้อย ของเก่าก็จะไหลออกมาเอง พวกเจโตวิมุติก็เป็นดั่งนี้แล ภพนี้ขอให้เรียนรู้เรื่องฤทธิ์พอประมาณ แล้วทิ้งฤทธิ์ลงเสีย หันมาใช้ปัญญาวิมุติก็จะพบกับความสงบร่มเย็น เป็นกระแสโลกุตระ จะมีแต่ความเย็นเท่านั้น กระแสความเย็นกับกระแสความเมตตา เป็นกระแสอันเดียวกันกับองค์พุทธะ ผู้ได้เข้าสู่กระแสเย็นแล้ว ปิดทางนรกครับ ความเย็นจะแผ่ไปสู่เพื่อนนักรบธรรมได้อย่างไม่มีขอบเขต ผู้เข้าถึงแล้วจะเข้าใจได้เอง.... ผู้ที่เข้าถึงมรรคแล้ว จะเสวยผลของกระแสเย็นไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพานเป็นที่สุด ไม่ไหลย้อนกลับมาสู่กระแสร้อนอีกต่อไป... ไปให้ถึงทุกคนนะครับ
ขอเจริญในธรรมครับ
อาการมือติดกันเสมือนมีไฟฟ้าสถิตและหนักอึ้ง...จนผมทึกทัก(คิด)ไปเองว่า...ทำไมเราเหมือนเป็นแหล่งพลังงานเลย...แบบนี้หรือเปล่าหนอที่ท่านบอกว่า...เมื่อถึงเวลาแล้วจะรู้เอง...

ข้อสังเกตุจากการพิจารณา การอัญเชิญปฐวีธาตุหรืออัญเชิญพระพิมพ์ที่รับจากพ่อแม่ครูอาจารย์ (ถวายให้ท่านพิจารณา) ระหว่างการปฏิบัติสมาธิ...ผลการปฏิบัติหรือประแสออกมาคล้ายคลึงกัน


ปล: คุณซึ้งบนลองทดลองอัญเชิญกริ่งปวเรศที่ได้ในวาระวันแม่ดูนะครับ
โมทนาสาธุทุกประการครับ
ดร.นนต์
อาการตัวแข็ง มือไม้ติดกันจนแกะไม่ออกนั้น ผมเป็นมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติเมื่อห้าปีที่แล้ว ตัวตรงเหมือนหิน แม้ยามนอนก็นอนท่าเดียวเกือบทั้งคืน นี่คืออาการและจริตเก่าดั้งเดิมของพวกเจโตวิมุติ พวกมีฤทธิ์มาก เป็นนักบวช ฤาษี นักพรต ดาบส มาก่อนทั้งนั้น อาการแบบนี้นั่งตากแดดตากฝนมาหลายภพหลายชาติแล้ว เมื่อปฏิบัติไปได้ระดับสูงขึ้น เราจะรู้จะคลายอาการได้เอง ผ่อนลงมาได้เร็ว จะดีกว่าพวกที่อ่อนปวกเปียกเพราะพวกนี้จะปรับเข้าไปเดินสายกลางได้ยากกว่าผู้ที่ได้ฝึกหนักมาแล้วไม่ได้ เป็นสิ่งที่ดีไม่เสียหายเป็นอาการของการเข้าฌานสูง(ถ้าผมจำไม่ผิดจะเข้าฌานสามฌานสี่) แต่ถ้าให้ดีปรับลงมาสู่ความเป็นกลาง คือ ความเบาสบายแบบตัวตรง

ให้ใช้มโนมยิทธิในการปรับคลื่นพลังให้ไหลเวียนในกายได้ จะเป็นจริงหรือไม่ไม่ต้องสนใจ แต่ความรู้สึกมันจะเกิดขึ้นเอง เพราะทุกสิ่งมันเกิดจากจิตทั้งนั้น ขอให้เล่นพอประมาณ ปรุงนิดหน่อย พออร่อยก็ปล่อยวางมันลงเสีย อย่ายึดติดในอาการเหล่านั้นอีก จงเรียนรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะปฏิบัติ จงพิจารณาตัวถูกรู้(สิ่งที่มากระทบกับอายตนะคือรูปกาย) ผู้รู้(จิตหรือวิญญาณตัวรู้) แล้วแยกมันออกมาพิจารณา ก็จะเห็นเวทนา สัญญา สังขาร เมื่อรู้แล้วก็ละวางทั้งที่ตัวผู้ถูกรู้และตัวรู้เสีย ให้มันเป็นอยู่อย่างนั้น เป็นไปตามสภาวะของโลกที่มี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป สิ่งทั้งหลายก็ล้วนมิใช่ของเรา และควบคุมมันไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีละวางที่ใจของเรานั่นเอง...ใจ คือ ความกลาง ความว่าง ความบริสุทธิ์ อันจะเป็นตัวนำไปสู่พระนิพพานนั่นเอง
ขอเจริญในธรรม


ดร.ณัฐชัย#5403
***นำปฐวีธาตุ หรือ พระเพชร วางไว้บนฝ่ามือ
ดร.นนต์ บอกอาการดังกล่าวว่าพระดิ่นได้
ขณะที่ผมนำมาวางไว้บนฝ่ามือ แล้วนั่งทำสมาธิ พบอาการดังนี้
- พระเพชร รู้สึกและสัมผัสได้ มีการพองตัวใหญ่ใหญ่ขึ้นและกลับมาเหมือนเดิม สลับไปมา (ด้านสั้น)
- การยึดตัวให้ยาวขึ้น (ด้านยาว) คล้ายกับการวิ่งเข้าวิ่งออก ไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกับด้านสั้น
- เปล่งแสงเหมือนเกิดแสงไฟกระพริบในนิมิตร


IT Man:
สวัสดีวันพระใหญ่ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 หากนับวันปกติเราจักเรียกว่าวันมาฆบูชา
แต่ปีนี้มีเดือน 8 สองหน จึงเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญเดือน 4 แทนครับ
ผมพึ่งเดินทางกลับจากภูดานไหมาถึงเมื่อวาน(6/2/55)ตอนเช้า ก็ได้รีบดำเนินการจัดหาพระประธานที่ทำด้วยไม้สักทอง
เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ หอฉันแห่งใหม่แทนองค์เดิมที่ทำด้วยเรซิ่น
ไว้จะ update ความคืบหน้า ในลำดับถัดไปนะครับ
องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้เมตตาไขข้อสงสัยในเรื่องพระพุทธานุภาพไร้ขีดจำกัดแบบย่อๆไว้ว่า...
พลังพระพุทธานุภาพนั้น ไม่สามารถประมาณได้ เปรียบเหมือนน้ำในมหาสมุทร
อันบุคคลจะสามารถตักตวงไปใช้เท่าไหร่ก็ได้...ไม่มีวันหมดสิ้น
พลานุภาพสูงสุดสามประการคือ พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ และพระสังฆานุภาพ (อริยสงฆ์)
เป็นพลานุภาพอันบริสุทธิ์ อยู่เหนือทุกแดนโลกธาตุ เทพเจ้าเหล่าพรหมทั้งหลาย
ยังต้องเสด็จลงมากราบไหว้ พิทักษ์รักษา เพื่อขอบุญบารมีจากท่านเลย...

อนึ่ง...พลังพระพุทธานุภาพอันเป็นของทิพย์ สถิตในพระพุทธปฐวีธาตุและพระแม่ธรณีธาตุนั้น
เวลาเลี่ยมพลาสติกไม่จำเป็นต้องเจาะรู...พระภูดานไห ไม่ต้องเจาะก็ออกมาได้เด๊อ!
ขอให้เจริญในธรรม/IT Man
หลายวันก่อนญาติธรรมทางไกล ก็แจ้งเจตนาร่วมทำบุญสร้างวัดกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาด้วยครับ
ด้วยเหตุที่พบประสบการณ์เหลือเชื่อเกี่ยวกับพระพุทธปฐวีธาตุ ที่ผมพึ่งส่งไปให้หลังวาระมุทิตาสักการะฯ คร่าวๆดังนี้
  • ก่อนได้รับ ก็ฝันเจอเทวดาใส่ชุดขาวเสด็จมาหา
  • เมื่อได้รับแล้ว ก็ฝันเห็นผู้หญิงสวมชุดขาวขายดอกบัวสีขาว สีม่วง สี...
  • ทั้งเวลาอัญเชิญไปภาวนา ก็จักพบกระแสเย็นยะเยือก และสงบอย่างรวดเร็ว
  • ทั้งพระพุทธปฐวีธาตุขยับ(เคลื่อน)ได้ ขยายองค์ได้
  • ยังไม่พอ อธิษฐานขอให้ขายสินค้าที่ไม่น่าจะหมดได้ง่ายๆ กลับมีคนมาอุดหนุนซะเกลี้ยงเลย
  • จนบอกผมว่า ไม่ต้องไปหาวัตถุมงคลใดๆอีกแล้ว คงกันนิวเคลียร์ได้แน่ๆเลย
"พระพุทธปฐวีธาตุ พระแม่ธรณีธาตุ แห่งภูดานไห แขวนเดี่ยวเที่ยวทั่วโลกครับ"
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างบางส่วนที่ นรธ.ประสบ แต่ไม่พบว่ามีท่านใดประสบเหตุการณ์ครบเครื่องต้มยำเช่นนี้ ขนาดผู้อยู่ทางไกล ยังไม่ได้พบองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ยังเชื่อมั่นและประสบการณ์ขนาดนี้
ทำให้ต้องมองย้อนมาหาตัวเองว่าเป็นดั่งเช่น...

"กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว อยู่บนหัวกลิ่นบัวบ่ต้อง
แมงภู่ง่องบินผ่ายแอ่วมา เอาเกษาดอกบัวไปจ๊อย" ล่ะน๊อ หึหึ
บทสรุปและความเห็นที่ตรงกันจากหลายๆท่าน.....เป็นการยืนยันคำอุทานของผม ท่านสมบัติและท่านดร.นนต์ได้เป็นอย่างดี หึหึ/สมาชิกธรรม
เมื่อวานได้แบ่งปันประสบการณ์กับ นรธ.ท่านหนึ่ง พึ่งทราบว่า นรธ.อีกหลายๆ ท่านก็เจอเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีขยับ,เคลื่อนที่ได้แต่ท่านบอกว่า "โถ...พูดไปใครเขาจะเชื่อ หากไม่ได้ประสบเอง" เห็นจะจริงตามนั้น...

ทุกวันนี้ นรธ.ท่านนี้ อัญเชิญองค์แดง(อำนาจธรรมบารมี)และบ่วงนาคบาศเท่านั้นเองแหละครับผม
ส่วนผม...หลังจากกลับจากเชียงใหม่ ก็ได้สั่งทำตลับพระ องค์ปริศนาธรรมบารมี (ประทานพร)เพื่ออัญเชิญเดี่ยวเช่นกัน
ปล: การจักมั่นใจได้ว่าพระพิมพ์องค์ไหน สำนักใด สามารถอัญเชิญเดี่ยวๆได้นั้น สำหรับผม
- เมื่อสัมผัส,ตรวจสอบอิทธิคุณโดยเรียบร้อย
- ทดลองอัญเชิญร่วมกับพระพิมพ์องค์หลักอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป
(ถ้าของท่านดีจริงพลังต้องเกื้อหนุนกัน)
- สอบถามจากท่านผู้สัมผัสได้อื่นๆ ผลตรงกันอย่างน้อย 2-3 ตัวอย่าง
- เมื่อผลตรงกันแล้วก็ทำตามจิตปราถนาสูงสุดได้เลย
- คือ สำรวจกิเลสภายในใจของตัวเองว่า...ยังอยากอะไรเพิ่มมั๊ย?
- หากมีใครเอาพระดีเลิศมาล่ออีก (ฟู) ยังจะอยากได้ไว้ติดตัว (กระเพื่อม) อีกหรือไม่?
- ยังห่วง (จม) พระพิมพ์ที่ครอบครองอยู่ (ที่ว่าเลิศ)...หรือไม่? เป็นต้น
- เมื่อ "ไม่"หรือผลเบาบางพอสมควรแก่เหตุแล้ว ก็จักถึงขีดขั้นของการ
ปล่อย ละ วาง ในเรื่องวัตถุมงคลได้ในที่สุด (ความเห็นส่วนตัว)
พระพุทธปฐวีธาตุ พระแม่ธรณีธาตุ แห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช จึงเป็นคำตอบสุดท้ายด้วยประการฉะนี้/IT Man
**************************
อันความอยากนั้น องค์ท่านสอนไว้เหมือนกันครับ
เช่น อยากเป็นพระอริยเจ้า แต่กลับไม่ทำเหตุให้ถูกทาง (อริยมรรค) แล้วจักบังเกิดอริยผลได้อย่างไร? อยากข้าว ได้แต่เพียงคิดๆ ก็คงไม่อิ่ม ...
ในเรื่องวัตถุมงคลก็เช่นกัน ผมเองเคยถามองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ว่า"โอหนอ พ่อแม่ครูอาจารย์ครับ ปกติกระผมก็วางเฉยกับเรื่องวัตถุมงคลมามากแล้ว แต่เวลาเห็นขององค์ท่านแล้ว ทำไมกิเลสมันกระเพื่อมจนอยากได้ขึ้นมาครับ"
ท่านก็เมตตาบอกว่า "เอ๊า มันเป็นธรรมดา ที่คนธรรมดา เมื่อเห็นสิ่งดีๆเป็นมงคล ก็ต้องอยากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นของๆครูบาอาจารย์ที่เป็นมงคล ไว้กับตัว ฯลฯ"
แม้ผมจะเข้าใจที่ท่านพูดนิดหน่อย แต่จิตของผมก็จะพยายามเพียรละ เพียรถอนในเรื่องเหล่านี้ต่อไป ให้ถึงที่สุดแห่งเส้นทางนี้ให้ได้ครับ

คุณแม่ชมบอกว่า "แรกๆท่านก็ให้อัญเชิญไปก่อน เดี๋ยวก็จะรู้เองว่าพลานุภาพนั้นเป็นเช่นไร ฯลฯ"
เห็นว่ามีหลายท่านที่ปรารถนาพระพุทธปฐวีธาตุ โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาสงเคราะห์

หากท่านเชื่อมั่น ศรัทธาจริง ก็ขอเชิญชวนให้ท่านเดินทางไปฟังธรรมจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ภูดานไห
เพื่อให้เห็นพระธรรมของพระพุทธเจ้าดูก่อน เมื่อรับธรรมะอันเป็นของมงคลแล้วน้อมนำไปปฏิบัติตามเช่น ตื่นเช้ามาพาลูกๆตักบาตพระ ทำบุญ รักษาศีล ทำกิจต่างๆด้วยจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
มีพรหมวิหารธรรมมาครอง ตกเย็นมาก็พาครอบครัวทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้วสิ่งมงคลก็จักเกิดขึ้นกับตัว แลครอบครัว มีความพร้อมที่จักอัญเชิญวัตถุอันเป็นมงคลเหล่านั้น

แล้วท่านทั้งหลายก็จักได้ประจักษ์ในพลานุภาพแห่งองค์พระพุทธปฐวีธาตุว่ามีมากมายมหาศาลขนาดไหนทีนี้แหละท่านก็จักได้รู้กำลังของตนเอง ว่ามีมากน้อยเพียงใด
(ผมขอรับรองว่า ท่านจักได้มากเกินกว่าที่ท่านปรารถนาเป็นแน่แท้)

ทว่า...หากนำไปโดยที่ยังไม่ได้รับธรรมะของพระพุทธเจ้า รู้แต่เพียงว่าของๆท่านดี แล้วนำไปทดลอง หรือไปใช้ในทางที่ไม่ถูกที่ควร แต่กลับได้ผลไปอีกอย่าง ก็จักเกิดอาการปรามาส ก่อให้เกิดผลร้ายกับตัวก็อาจเป็นได้ องค์ท่านกลัวเช่นนี้ ท่านถึงแนะนำให้ญาติธรรมเดินทางเข้ามารับธรรมก่อน
กระผมขอกราบขอบพระคุณคุณแม่ชมที่เมตตานำธรรมะขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาสั่งสอนด้วยความหวังดีและมีเมตตายิ่ง
"ขอทุกท่านเจริญในธรรม"
โมทนาสาธุครับ
**************************
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ "นนต์" อ่านข้อความ
พระพุทธปฐวีธาตุ แสดงปาฏิหาริย์
เมื่อคืนนี้ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 ผมและญาติธรรมได้ไปเดินเที่ยวตลาดไนท์บาซาร์ที่ตลาดเซฟวัน โคราช เพื่อนำพระพุทธปฐวีธาตุ องค์อำนาจธรรมบารมี (สีแดงเขียว) ที่พ่อแม่ครูอาจารย์มอบให้คุณนาย(แม่บ้านผม) เพื่อไปใส่ตลับพระ และได้พบกับน้องสาวซึ่งเป็นญาติธรรมผู้หนึ่งคือ คุณหนึ่ง เธอเป็นผู้มีญาณพิเศษมาตั้งแต่เด็ก และถือเป็นลูกศิษย์เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ภพนี้หลวงปู่โตก็ยังเสด็จมาช่วยเหลือเกื้อกูลเธออยู่เสมอ บางครั้งก็บอกเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งพระสมเด็จที่วิเศษสุดชุดเนื้อผงใบลานก็เสด็จมาอยู่ที่เธอจำนวนมาก เมื่อไปถึงเธอเอ่ยขึ้นมาว่า "วันใดที่หนึ่งระลึกถึงด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์ก็มาหาหนึ่งทุกที" เมื่อสนทนากันพอสมควรแล้ว ผมยื่นพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินองค์ที่ผมเขียนเล่าให้ฟังแล้ว เธอตอบว่า เห็นหลวงปู่โตด้วย สร้างในสมัยที่อยู่กรุงเทพฯ (หลวงพ่อเงินมาศึกษาวิชชากับหลวงปู่โต 3 ปี)
ต่อมาผมยื่นพระพุทธปฐวีธาตุองค์สีแดงเพื่อให้เธอสัมผัส ปรากฏว่า เมื่อเธอวางบนฝ่ามือและกำหนดจิตสักพักหนึ่ง เธออุทานออกมาพร้อมกับทำหน้าตาขมุบขมิบปนปีติว่า "พลังมากมายมหาศาลไม่เคยพบเจอมาก่อน หนึ่งเห็นพญานาคองค์ปู่ปฐมจำชื่อท่านไม่ได้ เป็นองค์ใหญ่ที่สุดของพญานาคดูแลอยู่ เป็นผู้สร้างและทำลายก็ได้ มีพญานาคมากมายค่ะ" ข้อนี้จึงตรงกับคุณอ้อผู้มีญานพิเศษอีกท่านหนึ่งที่บอกผมเมื่อสามวันก่อนหน้านั้นว่า มีพญานาคมากมาย มีพลังสว่างไสวไหลเข้ามาไม่สิ้นสุด เย็นมาก และตรงกันกับที่ ดร.โก๋ บอกผมเช่นกันว่า มีพญานาคทุกเผ่าพันธุ์เต็มไปหมด
หลังจากนั้น คุณหนึ่งเธอได้ยื่นมือมาให้ผมและคุณหนุ่ม(ญาติธรรมที่ไปด้วยกัน)ดู ปรากฏว่ามีสีแดงอยู่รอบๆฝ่ามือของเธอ พร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า "ด็อกเตอร์พลังของท่านวิ่งเข้ามาเต็มมือหนึ่งเลย หนูมึนไปทั้งตัว วันนี้เจอแต่ของหนักๆ พระองค์นี้มีทั้งอำนาจมาก และมีเมตตาอยู่ด้วย หนึ่งเห็นปู่พญานาคองค์ปฐมพันอยู่ที่องค์พระสีเขียว สีเขียวที่เขียนเป็นรูปองค์พระนั้นแหละเป็นตัวท่านเลย" ผมสังเกตสีหน้าของเธอก็เป็นไปตามนั้น

เมื่อผมเดินทางกลับแล้ว เธอได้โทรศัพท์เข้ามาหาผมพร้อมทั้งระล่ำระลักออกมาว่า "ด็อกเตอร์ค่ะ มือของหนึ่งชาและหนักมาก มีเส้นปูดโปนเหมือนมีพญานาคพันมือพันแขน เป็นสีเขียวด้วย หนึ่งวิ่งไปให้เพื่อนที่อยู่ข้างร้านดู เขาก็ตกใจและแปลกใจมากค่ะ หนึ่งจึงขอขมาท่าน หากหนูล่วงเกินสิ่งใดก็ขออโหสิกรรมด้วยนะค่ะ หนึ่งไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลยค่ะ" ผมจึงบอกเธอว่า "ท่านแสดงให้เห็นเฉยๆ ขอให้หนึ่งเข้าไปศึกษาที่เว็บบล็อกของผมคือ พ.สุรเตโช พระผู้มาโปรดโลก นะ" แล้วทุกอย่างจะกระจ่างเอง
ท่านทั้งหลาย นี้คือ ปรากฏการณ์สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดจากพระบารมีแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชเจ้า ที่ได้เนรมิตสิ่งนี้ขึ้นมาด้วยมือ ด้วยหัวจิตหัวใจของท่าน เพื่อไว้ตอบแทนน้ำใจแก่เหล่านักรบธรรมและญาติธรรม ที่มาแสวงหาธรรม และผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างบุญกุศลทั้งหลายกับองค์ท่าน ด้วยคุณธรรมที่ประมาณมิได้ของพ่อแม่ครูอาจารย์ เหล่าพรหมเทวดาแลพญานาคผู้เป็นใหญ่สุด จึงได้พร้อมใจกันมาถวายการดูแลรักษาสิ่งมงคลเหล่านี้ ดั่งที่ผมนำมาเล่าเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จึงขอให้ท่านทั้งหลายจงพิสูจน์ตามหลักกาลามสูตรด้วยตัวของท่านเองเถิด
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
27 กพ. 2555
พระพุทธปฐวีธาตุ องค์อำนาจธรรมบารมี อยู่ในมือของคุณหนึ่ง (เป็นสมบัติส่วนตัวของคุณนายสมฤดี แม่บ้านผมเองครับ)
องค์อำนาจธรรมบารมี ของคุณนายสมฤดี
องค์อำนาจธรรมบารมี ของ ดร.นนต์
องค์อำนาจธรรมบารมี และองค์เอตทัคคะบารมี ของ ดร.นนต์
**************************
- มีญาติธรรมท่านหนึ่งที่สัมผัสพลังได้ "สัมผัสถึงกระแสความเย็น นุ่มนวล มาเรื่อยๆเอื่อยๆ เหมือนยืนอยู่บนภูเขา พลังที่ว่านั้นทำให้จิตใจสบายๆ"
- และมีญาติธรรมอีกท่านบอกว่า "ก่อนได้รับพระพุทธปฐวีธาตุ ได้ฝันเห็นงูตัวเล็กหลายสี(ชมพู เขียว ....) 4-5 ตัว ได้เลื้อยอยู่ในบ้าน อยู่ในกองผ้า ผ้าห่ม แปลกดี"

- ฯลฯ
ท่านเมตตาไขว่า...
ผู้มีเชื้อสายพญานาคก็จักได้รับความเมตตาและคุ้มครองจากเหล่าพญานาคเสมอ
หากท่านทั้งหลายเจริญเมตตาภาวนา...เหล่าพญานาคผู้ทรงฤทธิ์ก็จะโปรดปรานท่านเป็นพิเศษครับ

เพิ่มเติม: 
ทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก
พระพุทธปฐวีธาตุ: 58: ปาฏิหาริย์องค์พระพุทธปฐวีธาตุแสดงฤทธิ์