วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

42: องค์พระพุทธนาคาพิทักษ์

ฝากภาพ "องค์พระพุทธนาคาพิทักษ์"
ใช้ตะปูตอกสังกะสีแกะสลัก โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
เนื่องในวาระแทนคุณบิดามารดา (23-24-25 มี.ค.'55)
พระองค์นี้แหละครับ เสด็จมาโปรดผมในดวงจิต ตลอดการเดินทางสู่ภูดานไห ในค่ำคืน 22 มี.ค. 55
ด้านหลังองค์พระคือพระธาตุที่เกาะเต็มแผ่นดินแม่น้ำโขงนี้ทุกอณู...แฮงบ่ท่านฤาษี?
แฮงหลายอยู่แต่ยังบ่เท่าลูกอมพญานาคสีดำเน้อ(ความเห็นและชอบส่วนตัว...หึหึ)
แม่นอยู่บ่?...หึหึ

ลูกอมพญานาคนี่ พอผมเข้าไปกุฏิกาลิก (อันเป็นที่ๆองค์ท่านใช้เป็นที่เก็บและจารย์ปฐวีธาตุเป็นการชั่วคราว เพราะกุฏิท่านด้านล่าง ช่างกำลังต่อเติมอยู่)
เท่านั้นแหละครับ ปรากฏว่า...จู่ๆก็ปวดหัวใบหูร้อนวูบวาบอย่างหาสาเหตุบ่เจอ...

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์จึงได้นำลูกอมที่เป็นธาตุกายสิทธิ์เมืองนาค ออกมาให้คุณแม่ชมดู พร้อมกับพูดคุยกันว่า "แฮงอิหลีเด๊อแม่ชม"
พร้อมกับวางให้แม่จับดู แม่ชมก็บอกว่า "แม่นอิหลีเจ้าค่ะ" แล้วส่งต่อมาให้ผมพิจารณา เหมือนประหนึ่งจะกวนกิเลสของผมให้กระเพื่อมขึ้นมา
ในที่สุดมันก็กระเพื่อมออกมาจริงๆเจ้ากิเลสตัวแสบ! จนอดไม่ได้ต้องเรียนถามองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ว่า

"พ่อแม่ครูอาจารย์ครับ ไอ้ที่กระผมปวดหัวนี่่ เป็นเพราะกิเลส (ที่อยากได้) หรือเป็นเพราะพลังมหาศาลของลูกอมพญานาคนี้หนอ?"

องค์ท่านได้แต่นั่งยิ้ม...ซึ่งผมพอจะหาคำตอบได้แล้วว่า อาการอยากได้(กิเลส)นั้นมีอยู่ปกติดี...จนถึงกับออกปากถาม ไม่ถึงกับต้องปวดหัว
แต่อาการปวดหัวใบหูร้อนนั่น เพราะรู้ดีว่า...หากเจอพลังมหาศาลมันก็เป็นเช่นนี้ ปกติของผมที่เจอ หากเมื่อคุ้นเคยพลังเดี๋ยวก็จะหายเป็นปกติเอง
ซึ่งก็หายจริงๆระหว่างการถวายภัตตาหารเช้าครับ

เมื่อกระเพื่อมออกมารุนแรงก็ต้องเอ่ยปากขอท่านตรงๆว่า จะขอไปร่วมสร้างบุญบารมี เมื่อถึงกาลอันควรจะนำกลับสู่พิพิธภัณฑ์แห่งภูดานไห
เพราะองค์ท่านก็เคยบอกว่าพญานาคเขาเก่งเรื่องฤทธิ์ เงินทองและช่วยในการภาวนา ซึ่งเหล่านาคจะโปรดมากเป็นพิเศษครับ

ข้างในมีเม็ดพระธาตุเหมือนข้าวสาร